ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยกำหนดให้วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นวันเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียงเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น โดยมีรายละเอียดดังนี้
ความผิดเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง
1. จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
2. ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัดหรือศาสนสถานอื่น สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
3. ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
4. เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
5. หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
6. การจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งหรือนำกลับจากที่เลือกตั้ง เพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารหรือค่าจ้าง
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
เว้นแต่หน่วยงานของรัฐที่จะจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต้องแจ้งเรื่องให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบก่อนดำเนินการ
ห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
7. ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้มีสัญชาติไทยเข้ามีส่วนช่วยเหลือในการเลือกตั้ง หรือกระทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่การเลือกตั้งที่อาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร ทั้งนี้ เว้นแต่การกระทำนั้นเป็นการช่วยราชการตามที่ทางราชการร้องขอ หรือเป็นการประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั้น
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท
8. เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่และอำนาจ
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
9. ห้ามมิให้ผู้ใดทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการใด ๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร นับตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง (ห้ามหาเสียงตั้งแต่เวลา 18.00 นาฬิกาของวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568 จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568)
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง
1. กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งใช้จ่ายในการเลือกตั้งเกินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำหนด รวมถึงบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้จ่ายและทรัพย์สินที่บุคคลอื่นได้นำมาให้ใช้ หรือยกให้โดยไม่คิดค่าตอบแทน และบรรดาเงินที่บุคคลอื่นได้ใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งให้ผู้สมัครและผู้สมัครได้รับทราบถึงการกระทำดังกล่าว
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท หรือปรับเป็นจำนวน 3 เท่าของจำนวนเงินที่เกินจำนวนค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดประกาศกำหนด แล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี
2. ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน 90 วัน นับแต่วันเลือกตั้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
เป็นความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
3. ผู้สมัครรับเลือกตั้งยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายเป็นเท็จ
เป็นความผิดมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 10 ปี
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444
รายการ
ข่าวประชาสัมพันธ์
1,811
เลขาธิการ กกต. ลงพื้นที่ตรวจส่งมอบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้ง สก. หนองจอก ที่จะมีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 นี้
18 พฤษภาคม 2568 เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
การเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด อำเภอเมืองตราด เขตเลือกตั้งที่ 1 ใหม่ วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568
คำค้นหายอดนิยม
ระบบได้รับข้อมูลการแจ้งไฟล์เสียเรียบร้อยแล้ว
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง