11 ตุลาคม 2567
39651/
การเลือกตั้งท้องถิ่นมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนในการกำกับดูแลวิธีการหาเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 180 วันก่อนครบวาระของผู้บริหารท้องถิ่นหรือตำแหน่งที่หมดวาระ ซึ่งมีกฎระเบียบและข้อบังคับในการดำเนินการหาเสียงเพื่อให้เป็นธรรมต่อผู้สมัครทุกคน พระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดรายละเอียดที่ครอบคลุมในการหาเสียงสำหรับผู้สมัครในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีประเด็นสำคัญที่ต้องทราบดังนี้:
ระยะเวลาการหาเสียงตามกรอบ 180 วัน
1. 1. เริ่มต้นการหาเสียง
· พระราชบัญญัติการเลือกตั้งท้องถิ่น พ.ศ. 2562 กำหนดให้ผู้สมัครสามารถเริ่มหาเสียงได้ตั้งแต่ 180 วันก่อนครบวาระของผู้บริหารท้องถิ่นที่ดำรงตำแหน่ง การกำหนดกรอบเวลา 180 วัน มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการใช้ตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่มาใช้ประโยชน์ในการหาเสียงหรือเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพรรคพวก ดังนั้นผู้สมัครทุกคนต้องปฏิบัติตามกรอบเวลานี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเลือกตั้ง
· โดยในช่วง 180 วันนี้ ผู้สมัครสามารถเริ่มนำเสนอนโยบายหรือวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานท้องถิ่นได้อย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้สมัครอย่างชัดเจนและทั่วถึง การเลือกตั้งท้องถิ่นมีลักษณะเฉพาะคือ ผู้สมัครหลายรายอาจมาจากกลุ่มหรือพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน ดังนั้น การกำหนดช่วงเวลาในการหาเสียงที่แน่นอนจึงช่วยป้องกันการใช้กลยุทธ์ที่อาจทำให้ผู้สมัครบางรายได้เปรียบมากกว่ารายอื่น
· นอกจากนี้ ในระหว่างช่วงเวลา 180 วันนี้ กกต. จะมีหน้าที่กำกับดูแลการหาเสียงเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง การฝ่าฝืนข้อกำหนดการหาเสียงอาจส่งผลให้ผู้สมัครถูกลงโทษทางกฎหมายหรือถูกตัดสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง
2. 2. ระยะเวลาหาเสียงก่อนวันเลือกตั้ง
ระยะเวลาหาเสียงจะสิ้นสุดลงใน เวลา 18:00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าผู้สมัครมีเวลาในการหาเสียงจนถึงช่วงเย็นของวันก่อนที่ประชาชนจะลงคะแนนเสียงในวันเลือกตั้ง โดยการหาเสียงที่ทำหลังจากช่วงเวลานี้ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด
3. 3. สิ่งที่ห้ามทำในช่วงเวลาการหาเสียง
แม้ว่าผู้สมัครจะสามารถดำเนินการหาเสียงได้ในช่วงเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่ก็มีข้อกำหนดที่ผู้สมัครต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แน่ใจว่าการหาเสียงเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส ดังนี้:
3.1 ห้ามหาเสียงในวันเลือกตั้ง
การหาเสียงต้องหยุดลงตั้งแต่เวลา 18:00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันสงบ ซึ่งประชาชนต้องมีอิสระในการตัดสินใจว่าจะลงคะแนนให้ใครโดยไม่มีการชักจูงหรือรบกวนจากผู้สมัคร การกระทำใด ๆ ที่เข้าข่ายเป็นการหาเสียงในวันเลือกตั้ง เช่น การพูดจูงใจ การแจกจ่ายเอกสารหาเสียง หรือแม้แต่การโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย จะถือเป็นการละเมิดกฎหมายและอาจนำไปสู่การดำเนินคดีทางกฎหมาย
3.2 ห้ามใช้วิธีการที่ไม่สุจริตในการหาเสียง
การหาเสียงต้องเป็นไปตามกฎหมายและไม่กระทำการที่เข้าข่ายการทุจริต เช่น การแจกจ่ายของขวัญ เงิน หรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อซื้อเสียง หรือการใช้คำพูดหรือข้อมูลที่ทำลายชื่อเสียงคู่แข่ง
o ผลกระทบจากการละเมิดระยะเวลาหาเสียง
หากผู้สมัครฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะเวลาการหาเสียง ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นมีทั้งการถูกตัดสิทธิ์จากการเป็นผู้สมัคร หรือการถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไป นอกจากนี้ยังอาจถูกดำเนินคดีทางอาญาตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องรับโทษปรับหรือจำคุก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการกระทำ
o การจัดการหาเสียงให้มีประสิทธิภาพภายใต้กรอบเวลา
ในระหว่างระยะเวลาหาเสียง ผู้สมัครควรวางแผนอย่างเป็นระบบเพื่อให้การหาเสียงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยใช้ทุกช่องทางที่กฎหมายอนุญาต เช่น การจัดกิจกรรมพบปะประชาชน การใช้สื่อออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ หรือการติดตั้งป้ายโฆษณาตามสถานที่ที่ได้รับอนุญาต โดยควรคำนึงถึงกฎเกณฑ์และข้อห้ามที่เกี่ยวข้องเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมาย
สรุปข้อสำคัญเกี่ยวกับระยะเวลาการหาเสียง
ผู้สมัครทุกคนจึงต้องเข้าใจและปฏิบัติตามระยะเวลาการหาเสียงอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นที่ยอมรับของสังคม
2. แนวทางปฏิบัติ มาตรา 65 ของ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มีการระบุข้อห้ามที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและบุคคลอื่นไม่สามารถกระทำได้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อรักษาความเป็นธรรมและความโปร่งใสในการเลือกตั้ง ข้อห้ามเหล่านี้ถือเป็นข้อกำหนดสำคัญที่ผู้สมัครต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นจะถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งและอาจได้รับบทลงโทษ
ข้อห้ามตามมาตรา 65
ใน มาตรา 65 ได้ระบุข้อห้ามที่สำคัญไว้ดังนี้:
บทลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนมาตรา 65
การฝ่าฝืนข้อห้ามตามมาตรา 65 จะถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง หากพบว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำการตามที่ระบุไว้ในมาตรา 65 จะมีบทลงโทษที่รุนแรง เช่น
การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และข้อห้ามตามมาตรา 65 จึงเป็นสิ่งที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้สนับสนุนควรตระหนักอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม
ในมาตรา 65 วรรค 2 มีข้อกำหนดที่ห้ามมิให้ผู้สมัคร หรือผู้ดำรงตำแหน่งบริหารในท้องถิ่นกระทำดังต่อไปนี้:
วัตถุประสงค์ของข้อห้าม
ข้อห้ามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารที่มีอำนาจในท้องถิ่นใช้ทรัพยากรสาธารณะ หรืออำนาจทางกฎหมายในการอนุมัติโครงการที่อาจเอื้อประโยชน์ต่อตนเองหรือกลุ่มการเมืองของตนในช่วงใกล้การเลือกตั้ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการเลือกตั้ง
บทลงโทษ
หากผู้ดำรงตำแหน่งบริหารหรือผู้สมัครกระทำการอนุมัติโครงการ หรือใช้งบประมาณของรัฐเพื่อประโยชน์ส่วนตัวในช่วงการเลือกตั้ง ผู้กระทำความผิดอาจถูกตัดสิทธิ์การสมัครรับเลือกตั้ง ถูกเพิกถอนผลการเลือกตั้ง หรืออาจถูกดำเนินคดีทางอาญา
ข้อห้ามนี้จึงเป็นข้อกำหนดที่สำคัญในการรักษาความเป็นธรรมของการเลือกตั้งท้องถิ่น
โครงการที่สามารถอนุมัติได้ในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น ตาม มาตรา 65 วรรค 2 ของ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 จะต้องไม่เข้าข่ายการใช้อำนาจในลักษณะที่เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคพวก นอกจากนี้ โครงการที่จะอนุมัติได้จะต้องเป็นโครงการที่มีการดำเนินการตามปกติ หรือเป็นงานที่ดำเนินการต่อเนื่องมาจากงบประมาณหรือแผนการที่ได้รับอนุมัติก่อนที่จะมีการประกาศเลือกตั้ง
โครงการที่อนุมัติได้:
ข้อควรระวัง:
สรุป : โครงการที่จะอนุมัติได้ในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องเป็นโครงการที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างความนิยมในเชิงการเมือง และควรเป็นโครงการที่ได้อนุมัติก่อนที่จะมีการประกาศเลือกตั้งหรือเป็นงานที่ดำเนินการตามภารกิจปกติของหน่วยงาน
3. แนวทางการหาเสียงกับสิ่งที่ทำได้และข้อห้ามสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นตามกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น
การเลือกตั้งท้องถิ่น เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนได้เลือกตัวแทนของตนเองเพื่อทำหน้าที่ในหน่วยงานระดับท้องถิ่น เช่น สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น การเลือกตั้งดังกล่าวมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและเข้มงวดเพื่อให้การเลือกตั้งดำเนินไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และมีความน่าเชื่อถือ ผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นจำเป็นต้องเข้าใจและปฏิบัติตามข้อกำหนดของ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 รวมถึง ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงเรื่องของการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียง
สิ่งที่ผู้สมัครทำได้:
สิ่งที่ผู้สมัครห้ามทำ:
การปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดจะทำให้การเลือกตั้งท้องถิ่นดำเนินไปอย่างสุจริต โปร่งใส และเป็นธรรมต่อผู้สมัครทุกคน การละเมิดกฎเกณฑ์เหล่านี้อาจนำไปสู่การถูกตัดสิทธิ์การลงสมัครหรือการดำเนินคดีตามกฎหมาย
ศึกษาระเบียบกฎหมายเพิ่มเติม
พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562
จังหวัดกำแพงเพชรจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน 2568
ผู้ตรวจการประจำเขตตรวจการที่ 10 ลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ติดตามการเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี
จังหวัดกำแพงเพชร จัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2568
ระบบได้รับข้อมูลการแจ้งไฟล์เสียเรียบร้อยแล้ว
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง
ระบบได้รับข้อมูลการแจ้งไฟล์เสียเรียบร้อยแล้ว
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง